การทําความสะอาดภายในรถยนต์ ไม่เพียงลดการสะสมของเชื้อโรคเท่านั้น แต่ยังช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย แล้วการทำความสะอาดภายในรถต้องทำอะไรบ้าง มาดูกัน ?
สิ่งสกปรกภายในรถอาจก่อให้เกิดเชื้อรา รวมถึงกลิ่นอับและกลิ่นไม่พึงประสงค์ การทำความสะอาดภายในรถจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง ผู้ใช้รถควรทำความสะอาดห้องโดยสารภายในอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง เพื่อลดการสะสมสิ่งสกปรกและกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ โดยสามารถนำเข้าคาร์แคร์หรือทำความสะอาดด้วยตัวเองก็ได้
การทำความสะอาดภายในรถด้วยตนเอง ต้องทำจุดไหนบ้าง ?
การทำความสะอาดรถยนต์เก่าด้วยตนเองทำได้ไม่ยาก โดยสามารถทำได้ดังนี้
1. เก็บขยะและดูดฝุ่นออกจากรถ เปิดประตูรถออกทุกด้านเพื่อระบายอากาศ แล้วเก็บขยะและดูดฝุ่นตามจุดต่าง ๆ ภายในรถ ไม่ว่าจะเป็นบนเบาะรถ แผงประตู คอนโซล ช่องเก็บของ หรือตามซอกเล็ก ๆ ออกจากรถให้หมด
2. ทำความสะอาดเบาะนั่ง แบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ ได้แก่ การทำความสะอาดเบาะผ้า และการทำความสะอาดเบาะหนังแท้-เทียม
การทำความสะอาดเบาะผ้า
การทำความสะอาดเบาะหนังแท้
การทำความสะอาดเบาะหนังเทียม
ทําความสะอาดภายในรถยนต์
3. ทำความสะอาดที่จับประตู โดยการใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดให้ทั่ว ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วนำน้ำยาทำความสะอาดเช็ดตามหลัง
4. ทำความสะอาดคอนโซล สามารถทำตามขั้นตอนได้ ดังนี้
5. ทำความสะอาดพรม/ผ้ายางปูพื้น โดยทำตามขั้นตอนได้ ดังนี้
6.. ทำความสะอาดที่เก็บของด้านหลัง เริ่มจากการใช้ผ้าชุบน้ำ บิดให้หมาด แล้วนำไปเช็ดให้ทั่ว จากนั้นเปิดประตูท้ายทิ้งไว้เพื่อผึ่งลมให้แห้ง
สำหรับการใช้บริการคาร์แคร์ นอกจากการทำความสะอาดภายนอกแล้ว คาร์แคร์หลาย ๆ ที่ยังมีบริการทำความสะอาดภายใน เช่น ฟอกทำความสะอาดเบาะผ้า-เบาะหนัง ถอดซักพรม ฟอกทำความสะอาดหลังคาภายใน ฟอกทำความสะอาดพรมพื้นติดรถยนต์ รวมถึงอบโอโซนขจัดกลิ่นภายในเพิ่มเติมด้วย ซึ่งค่าบริการทําความสะอาดภายในรถยนต์ ราคาจะอยู่ที่หลักร้อย ไปจนถึงหลักพันบาท ขึ้นอยู่กับประเภทรถและบริการที่ใช้
การทำความสะอาดภายในรถ ช่วยลดการสะสมของเชื้อโรคและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้อย่างดี นอกจากจะช่วยให้รถสะอาดและน่าใช้มากขึ้นแล้ว ยังทำให้บรรยากาศภายในรถดีขึ้นอีกด้วย